สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์
โปรตีนเพื่อการบริโภคของมนุษย์นั้นมีหลายรูปแบบ รวมถึงตัวเลือกจากพืช แต่บางคนเลือกเนื้อสัตว์เพราะต้องการในรสชาติ เนื้อสัมผัส หรือคุณค่าทางโภชนาการ แล้วการบริโภคเนื้อสัตว์ดีต่อสุขภาพหรือไม่ และนี่คือ สิ่งที่น่าแปลกใจเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์
- เนื้อสัตว์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ โปรตีนจากสัตว์เป็นอาหารที่สำคัญสำหรับมนุษย์มานาน โดยมีบทบาทสำคัญในเมนูของคนเรามาหลายชั่วอายุคน เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญที่สามารถบริโภคได้ตลอดทั้งปี โดยมีวิธีในการถนอมรักษาและจัดเก็บเพื่อให้ปลอดภัยสำหรับการบริโภค
- เนื้อสัตว์เป็นมากกว่าโปรตีน เนื้อวัวเป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารซึ่งให้โปรตีนคุณภาพสูง ธาตุเหล็ก สังกะสี โคลีน และวิตามินบี ซึ่งช่วยให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการขาดสารอาหารได้ตลอดชั่วอายุขัย ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีตลอดวัยเด็ก ตลอดจนรักษาความแข็งแรงและความมีชีวิตชีวาสู่ในวัยผู้ใหญ่
- โปรตีนจากสัตว์แตกต่างจากโปรตีนจากพืช ในการเปรียบเทียบขั้นพื้นฐานนั้น แหล่งโปรตีนจากสัตว์ถือเป็นโปรตีนคุณภาพสูงเนื่องจากให้กรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมดที่ร่างกายต้องการในคราวเดียว ส่วนโปรตีนจากพืชจำเป็นต้องได้รับการคัดเลือกโดยเฉพาะเพื่อให้แน่ใจว่าครอบคลุมกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีทั้งหมดในอาหารจานเดียว ข้อควรพิจารณาอีกประการหนึ่งคือโปรตีนจากพืชสามารถเป็นแหล่งของใยอาหารได้ ในขณะที่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้ธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ได้มากกว่า อาหารจากพืชมักมีคาร์โบไฮเดรตในขณะที่โปรตีนจากสัตว์ไม่มี ประเภทและปริมาณของไขมันอาจแตกต่างกันไปในทั้งสองอย่าง
- เนื้อไม่ติดมันมีให้เลือกมากมาย ด้วยความกังวลเกี่ยวกับไขมันหรือคอเลสเตอรอล จึงเป็นเหตุให้บางคนลดโปรตีนจากสัตว์ลง แต่ข่าวดีสำหรับคนรักเนื้อสัตว์ก็คือยังมีตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ปัจจุบันเนื้อวัวมีไขมันน้อยกว่าที่เคยเป็นมา ทำให้คนส่วนใหญ่รวมเอาเนื้อวัวไม่ติดมันไปอยู่ในรูปแบบอาหารเพื่อสุขภาพที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น เนื้อวัวที่มีจำหน่ายที่ร้านขายเนื้อสัตว์ มากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ จัดเป็นเนื้อ ‘แบบลีน’ ตามมาตรฐานของ USDA นอกจากนี้เนื้อวัวที่ขายดีที่สุด 17 ใน 25 อันดับแรกคือ ‘เนื้อไม่ติดมัน’”
- การผลิตเนื้อสัตว์สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน การที่คนหันมาสนใจในโปรตีนจากพืชเพราะความกังวลเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก แต่การเรียนรู้เพิ่มเติมทำให้ทราบว่า การเกษตรทุกประเภทล้วนสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่จำเพาะปศุสัตว์เท่านั้น จากข้อมูลขององค์กรด้านพิทักษ์สิ่งแวดล้อมระบุว่า ในปี 2018 การเลี้ยงโคเนื้อปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงคิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การเกษตร (ทั้งการผลิตพืชและสัตว์) ปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงทั้งหมดคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการปล่อยก๊าซเรื่อนกระจกจากการขนส่งอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์ และจากการผลิตไฟฟ้า อยู่ที่ 27 เปอร์เซ็นต์