วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ ที่ถูกต้อง
วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ ที่ถูกต้อง
วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ ที่ถูกต้อง เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า การฝึกหายใจแบบโยคะแตกต่างจากการหายใจทั่วไปอย่างไร ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า โยคะนั้นเป็นหนึ่งในการออกกำลังกาย ที่สามารถช่วยออกกำลังกายได้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงหัวใจ และปอด ดังนั้นแล้ว หากคุณฝึกการควบคุมรูปแบบการหายใจระหว่างออกกำลังกายโยคะให้ดี จะทำให้การออกกำลังกายของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง การฝึกหายใจแบบโยคะ จะช่วยเพิ่มสมาธิให้กับคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยจะช่วยทำให้ร่างกาย เกิดความผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นการจะออกกำลังกายด้วยท่าโยคะที่มีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่คุณต้องทำความรู้จักคือ การหายใจแบบโยคะมีกี่แบบ รวมไปถึงการหายใจอย่างไรให้สามารถที่จะออกกำลังกายได้ยาวนานและเหนื่อยน้อยลง เราจึงมีเคล็ดลับการหายใจที่ถูกต้องมาฝากทุกท่าน
การฝึกหายใจแบบปราณายามา ผ่อนคลายสบายท้องที่สุด
สำหรับ วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ หรือเรียกอีกหนึ่งอย่างว่าเป็นเทคนิคการหายใจแบบปรานายามา คือรูปแบบการหายใจที่ช่วยในการฝึกโยคะได้ดีที่สุด เป็นการฝึกหายใจขั้นพื้นฐานที่สายออกกำลังกายต้องรู้ โดยมีวิธีการฝึกหายใจที่เราอยากแนะนำ วิธีหายใจขณะเล่นโยคะ ให้ทุกท่านปฏิบัติตามดังต่อไปนี้
- การหายใจเข้า ในส่วนของการหายใจเข้าคนเรามักไม่เคยนึกถึงว่าจะต้องหายใจอย่างไร แต่การหายใจที่ดีคุณจะต้องหายใจเข้าให้ลึกที่สุด หรือเป็นการเติมลมเข้าไปให้เต็มท้อง และควรจะหายใจเข้าอย่างช้าๆ เมื่อลมเต็มท้องแล้วค่อยหายใจออกทางจมูก และการหายใจออกเงินให้คุณปล่อยลมหายใจอย่างช้าๆเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการหายใจขั้นตอนแรกที่เราอยากแนะนำ
- การหายใจลำดับที่สอง หลังจากที่คุณหายใจเข้าแบบสูดอากาศลมเต็มท้องแล้ว หลังจากนั้นให้คุณค่อยปล่อยลมหายใจออกมา แต่ในข่าวนี้คุณจะต้องหายใจให้ลึกขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่การเติมลมเข้าไปในท้อง แต่จะต้องสูดอากาศให้รู้สึกว่าลมได้เข้าไปยังปอดส่วนล่าง รวมไปถึงควรหายใจอย่างช้าเพื่อให้ซี่โครงขยับออกมาในขณะที่คุณหายใจ
- การหายใจออกด้วยกันปล่อยลมช้าๆและเป่าปาก จะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายในการหายใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งการหายใจออกที่ดีนั้นให้คุณเริ่มจากการปล่อยลมหายใจออกมาทีละน้อยพร้อมกับเป่าลมออกจากปากพร้อมกัน เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณหายใจได้อย่างสบายท้องมากขึ้น
โดยทั้งสามรูปแบบนี้เป็นการฝึก หายใจแบบโยคะ เบื้องต้น ซึ่งไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายโยคะท่าไหน จำไว้เสมอว่าในแต่ละถ้าจะต้องหายใจเข้าออกให้สอดคล้องกับจังหวะท่าโยคะที่คุณเล่น และหากใครที่เป็นมือใหม่ด้านการออกกำลังกายโยคะ คุณไม่ควรที่จะเลือกท่าโยคะยากจนเกินไป แต่ควรเริ่มจากท่าโยคะระดับง่าย แล้วจึงค่อยเพิ่มจำนวนระดับยากขึ้นไปเป็นสเต็ปนั่นเอง เพราะการบริหารโยคะบางท่า ต้องใช้การฝึกหายใจค่อนข้างยากขึ้นมาอีกหนึ่งระดับหากเป็นท่าโยคะที่ยากนั่นเอง
ประโยชน์ที่หลายคนมักไม่รู้ นำเสนอทุกท่านที่นี่
รู้หรือไม่ว่าสำหรับ วิธีการฝึกหายใจแบบโยคะ มีประโยชน์ที่หลายท่านไม่เคยรู้มาก่อน เนื่องจากการฝึกโยคะนั้นช่วยเพิ่มการไหลเวียนของระดับเลือดในสมองได้อย่างดี รวมไปถึงการ หายใจแบบโยคะที่ถูกต้อง
จะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง หากใครที่มีอาการปวดศีรษะบ่อย หรือสมองคิดอะไรไม่แล่น ขอแนะนำให้คุณลองบำบัดด้วยการออกกำลังกายแบบโยคะและฝึกหายใจอย่างถูกต้อง สามารถที่จะแก้ปัญหาสิ่งนี้ได้ดี อีกทั้งการออกกำลังกายแบบโยคะและ การหายใจแบบโยคะ จะช่วยทำให้มีสมาธิคลายความวิตกกังวลได้มากขึ้น และในประโยชน์ทางการแพทย์การฝึกโยคะเป็นประจำยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง สามารถที่จะลดระดับคอเลสเตอรอลได้ และที่สำคัญคือลดหน้าท้องเพิ่มกล้ามเนื้อ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลดน้ำหนักที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาออกกำลังกายด้วยวิธีนี้กันมากที่สุด